ความแตกต่างระหว่างแฟรนไซส์ (Franchise) กับเครือข่าย

เป็นคำถามอยู่บ่อยๆ ที่คนสนใจอยากสร้างธุรกิจ
จะสอบถามถึงเรื่องความแตกต่างของธุรกิจ 2 ประเภท
นั้นคือ แฟรนไซส์  (Franchise) กับ ธุรกิจเครือข่าย 

เมื่อทราบถึงข้อดีข้อเสียในทั้ง 2 ส่วนแล้ว
เราก็จะทราบว่าแบบไหน เป็นแบบที่เราควรจะลงทุนไป

แฟรนไชส์ (Franchise)
ธุรกิจแฟรนไซส์  หมายถึง กลุ่มธุรกิจที่ ณ ปัจจุบันได้รับการยอมรับอย่างมาก
แต่ใครจะทราบว่าธุรกิจด้านนี้ ก็เคยถูกเข้าใจผิดอย่างมาก
เคยถูกมองว่าเป็นธุรกิจที่ผิดกฏหมายมาก่อนเช่นกัน

ธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นอีกหนึ่งระบบธุรกิจในการการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการ
โดยผู้ประกอบการอิสระที่ต้องการมีธุรกิจสามารถเข้ามาซื้อแฟรนไชส์กับบริษัทแม่
โดยทางบริษัทแม่จะมอบสิทธิการใช้ครื่องหมายการค้า ให้ระบบ ให้แผนงาน
รวมทั้งให้ความรู้พร้อมทั้งความเชี่ยวชาญและการให้คำปรึกษา
โดยอยุ่ในรูปแบบสาขาที่มีหน้าร้าน และมาตรฐานเดียวกัน

สรุปอย่างง่ายๆ ธุรกิจแฟรนไซส์ ก็คือ ธุรกิจสาขาสำเร็จรูป
ของการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการใดๆ นั้นเอง

Frachise

Frachise

ข้อดีของระบบธุรกิจแฟรนไชส์ 

1. ลดความเสี่ยง ซึ่งตรงนี้อาจมีความเข้าใจผิดได้
หลายๆ คนมักบอกว่า ต้องการซื้อธุรกิจอะไรที่สำเร็จรูป
คือ ซื้อแฟรนไชส์แล้วจะไม่ขาดทุน ซึ่งทุกๆ ธุรกิจก็มีความเสี่ยง
แฟรนไซส์ก็มีโอกาสเจ๊งได้ แต่แค่เสี่ยงเจ๊งน้อยกว่าการเปิดธุรกิจเอง
ซึ่งต้องสร้างระบบธุรกิจด้วยตัวเอง โอกาสเสี่ยงสูงมากกว่า

2. ได้ความน่าเชื่อถือจากเครื่องหมายการค้าจากบริษัทแม่
ทำให้เริ่มต้นธุรกิจง่ายขึ้น มีคนรู้จักและเข้าใช้บริการได้ทันที

3. ประหยัดเวลาและเงิน มีระบบต่างๆ จัดให้อยู่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งระบบบัญชี สต๊อค และอื่นๆ ทำให้ไม่ต้องมาคิดใหม่ สร้างใหม่

4. มีการสอนการทำงานหรือ Training
คือ มีผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำการบริหารและการทำงาน จากประสบการณ์ในสาขาอื่นๆ

5. ได้รับสินค้าและระบบธุรกิจที่มีคุณภาพ
ซึ่งบริษัทแม่จะมีทีมงานที่พัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมในอนาคตได้

ยกตัวอย่าง แฟรนไชส์ ที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น
– 7-11 แฟรนไชส์ร้านค้าสะดวกซื้อ
– McDonald แฟรนไชส์ FastFood
– Starbuck แฟรนไชส์ร้านกาแฟ
– Fascino แฟรนไชส์ร้านขายยา

Franchise_shop


ธุรกิจเครือข่าย (Multi-Level Network Marketing)
เช่นกันกับธุรกิจแฟรนไซส์ (Franchise) เคยถูกมองว่าผิดกฏหมายมาก่อนเช่นกัน

ธุรกิจเครือข่ายเป็นหนึ่งในระบบเคลื่อนสินค้าที่เติบโตเร็วที่สุด
และถูกเข้าใจผิดมากที่สุดในปัจจุบัน

โดยนักธุรกิจอิสระเมื่อสมัครกับนักธุรกิจที่ปรึกษา
แล้วบริษัทแม่จะให้สิทธ์ในการทำตลาด ดูแลในการส่งผลิตภัณฑ์
ดูแลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ดูแลเรื่องบัญชี ดูแลการเงิน ดูแลการจ่ายผลตอบแทน
ดูแลเรื่องภาษี และอีกหลายๆ อย่าง
โดยธุรกิจเครือข่ายจะอยุ่ในรูปแบบสาขาที่เป็นบุคคล

สรุปอย่างง่ายๆ ธุรกิจเครือข่าย ก็คือ ธุรกิจการตลาดและสร้างเครือข่ายผุ้บริโภค
ในผลิตภัณฑ์ใดๆ โดยผ่านสาขาที่เป็นบุคคล นั่นเอง

ข้อดีของธุรกิจเครือข่าย
1. ความเสี่ยงต่ำมาก
2. ไม่ต้องมีทำเล
3. เป็นมรดกตกทอดได้
4. ไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม เมื่อทำการขยายสาขา
5. เริ่มต้นธุรกิจแบบ Part-time ควบคู่กับงานประจำหรือธุรกิจที่ทำอยู่ก่อนหน้าได้

เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ศึกษาตารางสรุปเปรียบเทียบความแตกต่าง
ระหว่าง ธุรกิจแฟรนไชส์ กับธุรกิจเครือข่าย ด้านล่างแล้วจะเข้าใจมากขึ้น

ธุรกิจแฟรนไชส์ ข้อเปรียบเทียบ ธุรกิจเครือข่าย 
กลาง < เงินลงทุน  > ต่ำ
กลาง < ความเสี่ยง > ต่ำ
มีคนสอน < ความรู้ – ประสบการณ์ > มีคนสอน
จำเป็นมาก < ทำเล > ไม่จำเป็น
ทุ่มเทอย่างมาก < การใช้เวลา ความอิสระ > Part-time ได้
ต้องลงทุนเพิ่ม < เมื่อขยายธุรกิจ > ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
มีขีดจำกัดต่อสาขา < ศักยภาพทางรายได้ > ไม่มีขีดจำกัด
มีขีดจำกัด < ขยายธุรกิจไปต่างประเทศ > ทำได้ทันที
เป็นมรดก < เป็นมรดกตกทอด > เป็นมรดก

สรุป ความหมายและความแตกต่างของธุรกิจทั้งสองแบบ
ส่วนจะเลือกทำธุรกิจแบบไหนก็ขอให้พิจารณาให้ดี ศึกษาเพิ่มเติมให้มากขึ้น
ก็จะได้ธุรกิจที่สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและครอบครัวได้แน่นอนครับ


Why Agel? 

ทำไมต้อง Agel

Comments are closed.

No row(s)!